แนะนำสถานที่จัดงานแต่งแบบ outdoor ในเชียงใหม่

สวัสดีว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคู่ที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งแบบ outdoor ที่ฝันอยากจัดงานแต่งบนสนามหญ้าสีเขียว ใต้ต้นไม้ใหญ่ ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ หรือริมแม่น้ำมาให้ได้เลือกกัน การจัดงานแบบ outdoor บรรยากาศจะสบายๆ อบอุ่น โรแมนติก ใต้แสงธรรมชาติหรือเเสงไฟสีนวลๆ แขกทุกคนได้ทักทายกันและกัน มันคือเสน่ห์ของงานแต่งแบบ outdoor

1. ต้องเข้าใจธรรมชาติที่เราไม่สามารถห้ามฟ้าฝนได้ จะต้องมีแผนสำรองไว้เสมอเผื่อกรณีฝนตกเพราะบ้านเราเดี๋ยวนี้ฤดูกาลต่างๆก็ไม่ค่อยจะแน่นอนกันเลย
   = ถ้าสถานที่นั้นมีส่วนของในร่มก็ต้องย้ายเข้าที่ร่ม (ต้องตัดสินใจล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพราะการเซ็ตอัพส่วนตกแต่ง โต๊ะเก้าอี้ต่างๆ)
   = หรือกางเต็นท์ (ข้อนี้ต้องตัดสินใจล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เมื่อเราดูพยากรณ์อากาศแล้วว่าช่วงนี้ตกแน่ๆ ก็อย่าลังเลนะคะ เดี่ยวนี้เต็นท์แบบใสๆ ที่ไม่ทำให้เสียบรรยากาศ outdoor มีจ้า)
   = ถ้าเราเลือกจะย้ายเข้าในร่มแล้ว เราจะไม่สามารถย้ายออกมาได้ทันที เมื่อวันงานฝนไม่ตก เพราะการตกแต่ง ระบบแสง เสียง ไม่สามารถย้ายได้ทันที
   = จงมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าฝนจะตก หรือฟ้าจะร้อง จงมีความสุขกับมัน (สำคัญที่สุด)
2. แสงแดดของเมืองไทยที่ไม่ว่าฤดูไหนในช่วงกลางวันก็ร้อน
   = ถ้าจัดงานแต่งพิธีเช้า เลี้ยงในช่วงเที่ยงต่อเนื่อง แนะนำให้มีพัดลมไอเย็นเสมอ บ้านเราร้อนทุกฤดูในช่วงกลางวัน
3. อาหาร โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็น outdoor จะไม่ใช่ รร. ดังนั้นจะต้องนำ catering ไปจัดเอง
   = มี catering หลากหลายให้เลือกสรรค์ มีตั้งแต่ เสิร์ฟเป็นคอร์ส บุฟเฟ่ต์ ซุ้มอาหาร บาบีคิว โต๊ะจีน กาดหมั้ว
   = ข้อดีคือ เราสามารถเลือกอาหารที่เราชอบจริงๆ มาเสิร์ฟให้เเขก มีความสนุกสนาน ไม่จำเจ
4. ระบบแสง เสียง เพื่อสร้างบรรยากาศ
   = ในช่วงค่ำจำเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้ไฟแสงวอมไวท์ ที่มาจากไฟปิงปอง ไฟหยดน้ำ ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยมากขึ้น
   = เสียงก็สำคัญเช่นกัน เพราะเป็นสถานที่เปิดโล่ง จำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องเสียงที่มีคุณภาพ และแขกได้ยินได้ทั่วถึง
5. โต๊ะ เก้าอี้ เพื่อสร้างบรรยากาศ
   = ข้อนี้ช่วยสร้างบรรยากาศให้ได้จริงๆ ทำให้งานของเราไม่ธรรมดา สร้างความรู้สึกให้กับคนที่มาร่วมงานได้เยอะมากๆค่ะ
   = ลองมองหาเห้าอี้ไม้ หรือเก้าอี้สีขาว ทอง อะไรที่ไม่ใช่เก้าอี้พลาสติกคลุมผ้าขาวดูนะคะ